28 กรกฎาคม 2563
9
ส่องประโยชน์การ “นวด” ที่ให้มากกว่าความสบาย พร้อมเช็คลิสต์ 5 สไตล์การนวด แบบไหนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละไลฟ์สไตล์และสภาพร่างกายที่แตกต่างกันไป
วิถีชีวิตแบบคนเมืองทำให้ร่างกายของเราใกล้ชิดกับความเครียดแบบหายใจรดต้นคอ ไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรมการทำงานที่ต้องกดดันตลอดเวลา การเผชิญรถติดอยู่บนถนนหลายชั่วโมง เบียดเสียดในรถสาธารณะ มลภาวะที่ไม่สดชื่น ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งไม่มีเวลาไปสังสรรค์กับเพื่อน
ทั้งหมดนี้คือปัจจัยที่ทำให้หลายเมืองใหญ่ติดอันดับเมืองที่เครียดที่สุดในโลก รวมถึงกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการแบ่งเวลาทำงานและพักผ่อนอย่างสมดุลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ แต่การพักผ่อนแบบฉบับคนกรุงฯ ที่เร่งรีบและไม่ค่อยมีเวลานั้น ‘การนวด’ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการพักผ่อนที่ช่วยลดความเครียดทั้งด้านร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี ไม่แพ้การไปฟังเสียงคลื่นที่ทะเล หรือการไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนภูเขาเลยทีเดียว
นวดเพิ่ม Productivity ในการทำงาน
‘การนวด’ ซ่อนพลังอันลึกลับของกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสเปรย์ กับน้ำหนักนวดที่พอดีมือจะนำเข้าสู่ภวังค์ความผ่อนคลายให้ร่างกายลดการหลั่งคอร์ติซอล (Cortisol) หรือสารแห่งความเครียดไม่ให้มีมากจนเกินไป ซึ่งจะหลั่งเมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือเมื่อเกิดภาวะเครียด นอกจากนี้การนวดยังกระตุ้นเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวล และเซโรโทนิน (Serotonin) สารที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก และอารมณ์ แถมยังมีส่วนช่วยเรื่องการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ ให้ตื่นขึ้นมาพร้อมสมองที่ปลอดโปร่ง ส่งผลต่อสุขภาพจิตให้พร้อมลุยทุกบททดสอบระหว่างวัน เพราะไม่ว่าจะใช้ชีวิตรูปแบบใด ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายต้องการพักผ่อน ดังนั้นเพื่อให้รางวัลกับร่างกายตัวเอง บทความนี้จึงรวมการนวดที่เหมาะกับคนเมืองแต่ละไลฟ์สไตล์มาให้
คนที่ไม่เคยนวดมาก่อน
นวดครั้งแรกไม่แปลกถ้าเขินอาย หรือจะรู้สึกจั๊กจี้เมื่อมีคนมาแตะเนื้อต้องตัว แต่ถ้าอยากให้ชัวร์ว่าจะไม่มีอาการเหล่านี้ แนะนำให้ประเดิมด้วยโปรแกรม ‘นวดเท้า’ และ ‘นวดคอ บ่า ไหล่’ ที่มีการสัมผัสเฉพาะจุดที่เปิดเผย แถมยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการแก้อาการปวดเฉพาะจุดที่อาจเป็นผลมาจากการทำกิจกรรมระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง นั่ง หรือนอน โดยการนวดเท้า และคอ บ่า ไหล่เป็นการปรับร่างกายในขั้นเริ่มต้นเพื่อให้ชินกับการนวด
พนักงานออฟฟิศและฟรีแลนซ์
พนักงานออฟฟิศใช้เวลาอย่างมาก 8 ชั่วโมงต่อวันไปกับการนั่งติดเก้าอี้ แทบไม่ได้ลุกออกจากโต๊ะทำงาน จนอาจทำให้เกิดอาการเกร็งคอ บ่า และไหล่ ดีไม่ดีจะทำให้เกิด ‘พฤติกรรมเนือยนิ่ง’ (Sedentary Lifestyle) ที่อาจนำเราไปสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้อีกด้วย หรือแม้แต่สายอาชีพที่ต้องยืนหรือเดินทางบ่อย ทำให้เท้าต้องทำหน้าที่อย่างหนักหน่วง รับน้ำหนักของร่างกายตลอดทั้งวันจึงเหมาะกับ ‘นวดทุกจุด’ (เท้า แขน มือ คอ บ่า ไหล่ ศีรษะ) ซึ่งเป็นการนวดสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกนอนเพื่อนวดทั้งตัว ไม่ชอบการนอนคว่ำ และเหมาะสุดๆ สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องนั่งทำงานไปพร้อมกับการนวด
ด้วยเทคนิคการนำการนวดเฉพาะจุดมาไว้รวมกันจึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสาวออฟฟิศและฟรีแลนซ์ที่ต้องยืน หรือนั่งอยู่ในท่าเดิมตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการนวดกดจุดสะท้อนเท้า (Foot Reflexology) ที่เป็นอวัยวะรองรับน้ำหนักตัว และเป็นศูนย์รวมของปลายประสาท จะช่วยสร้างความสมดุลและสนับสนุนการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ‘การนวดคลายเส้นและกล้ามเนื้อด้วยน้ำมัน’ (Tension Release Massage) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการยืดกล้ามเนื้อทั้งตัวของพนักงานออฟฟิศและฟรีแลนซ์ด้วยเทคนิคผสมผสาน (2 in 1 treatment) ระหว่างการนวดไทย และการใช้น้ำมันนวดเพื่อยืดกล้ามเนื้อหลัง ลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ ปรับบุคลิกภาพไม่พึงประสงค์ที่มาจากท่านั่งที่ผิดวิธีให้ดีขึ้น ร่วมกับกลิ่นหอมช่วยผ่อนคลายขณะนวดอีกด้วย
สายฟิตติดออกกำลังกาย
รักการออกกำลังเป็นชีวิตจิตใจ ยอมเสียเหงื่อให้กีฬาเพื่อแลกมาด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ คนกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่ใช้กล้ามเนื้อหนักที่สุดกว่าทุกกลุ่ม และมีแนวโน้มที่จะเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ง่ายในช่วงเริ่มต้นเล่นกีฬา หรือช่วงที่เว้นระยะเวลาจากการเล่นกีฬาไปนาน ดังนั้นจึงควรนวดเพื่อสร้างความผ่อนคลายในช่วงก่อนหรือหลังการออกกำลังกาย ด้วยลักษณะออกแรงมากเป็นพิเศษจาก ‘นวดไทย’ ที่ใช้เทคนิคการนวดกดจุดกับการยืดกล้ามเนื้อทั้งตัว และ ‘นวดคลายเส้นและกล้ามเนื้อด้วยน้ำมัน’ อย่างไรก็ตามหากมีอาการบาดเจ็บทางกล้ามเนื้อหรือมีอาการปวดมากเกินไป ควรหลีกเลี่ยงการนวด
ชาวคาเฟ่ ฮอปเปอร์และนักช้อป
หลงใหลในความสวยงาม หลงรักในความสุนทรีย์ พร้อมใช้เวลาที่มีไปกับคาเฟ่ทั่วทุกที่ แน่นอนว่าเท้าซึ่งเป็นศูนย์รวมน้ำหนักทุกส่วนของร่างกายต้องรับบทหนักที่สุดด้วยการเดินตลอดทั้งวัน อีกทั้งแขน มือ และคอ บ่า ไหล่ที่ทำหน้าที่แบกถุงชอปปิงไปพร้อมกับพิมพ์แคปชั่นลงรูปบนโซเชียลมีเดีย การนวดที่ใช่สำหรับสายนี้จึงเป็น ‘นวดไทย’ และ ‘นวดทุกจุด’ (เท้า แขน มือ คอ บ่า ไหล่ ศีรษะ) ด้วยรูปแบบการนวดที่ปราศจากน้ำมัน ทำให้ไม่มีกลิ่นน้ำมันนวดผสมกับกลิ่นโคโลญจน์หรือน้ำหอม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนวดระหว่างรอนัดแล้วไปเดินชิคๆ ต่อกับเพื่อน หรือจะเลือกปิดจ๊อบสำหรับการทัวร์คาเฟ่และชอปปิงด้วย ‘นวดคลายเส้นและกล้ามเนื้อด้วยน้ำมัน’ ให้ได้ยืดกล้ามเนื้อทั่วทั้งตัวพร้อมกลิ่นหอมจากน้ำมันนวด สร้างความสุนทรีย์ให้ประทับใจได้ไม่แพ้การทัวร์คาเฟ่เลยทีเดียว
คุณแม่หลังคลอด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณแม่หลังคลอดมักต้องใช้เวลาตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อดูแลลูกน้อย จนไม่ได้พักผ่อน แม้แต่เวลาที่จะเอนตัวนอนก็แทบไม่มี ต้องประสบกับอาการปวดหลังจากการอุ้มน้อง ปวดตามข้อต่อ ปวดก้นกบ หรือส่วนต่างๆ ของร่างกายที่เป็นอาการข้างเคียงหลังการคลอด เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณแม่จึงเป็น “นวดทุกจุด (เท้า แขน มือ คอ บ่า ไหล่ ศีรษะ)” ที่ไม่จำเป็นต้องนอนลงเพื่อนวดทั้งตัว เพียงแค่นั่งในท่าสบาย พร้อมดูแลลูกน้อยไปด้วย พนักงานนวดก็สามารถนวดได้ทั้งเท้า แขน มือ คอ บ่า ไหล่ และศีรษะเพื่อบรรเทาอาการปวดและสร้างความผ่อนคลายให้คุณแม่ได้
(สำหรับใครที่สนใจใช้บริการนวดที่บ้าน Wongnai มีบริการ Massage at Home ดูรายละเอียดได้ที่ https://wongnai/v6jt4)
"กลิ่นหอม" - Google News
July 28, 2020 at 05:00PM
https://ift.tt/3hLLetc
5 สไตล์ 'นวด' แบบไหนที่ใช่เรา! - กรุงเทพธุรกิจ
"กลิ่นหอม" - Google News
https://ift.tt/2zO6HBg
Home To Blog
No comments:
Post a Comment